Author: George Williams

ช่วงล่างกระด้าง แก้ได้ด้วยโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก”

Author George WilliamsPosted on August 30, 2020September 1, 2020Categories TechnologyTags

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก” และยี่ห้อโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก” ที่นิยมสำหรับอีโคคาร์ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าอาการที่แสดงให้รู้ว่าช่วงล่างรถยนต์กำลังมีปัญหามีอะไรบ้าง ? 

อาการที่แสดงให้รู้ว่าช่วงล่างรถยนต์กำลังมีปัญหา 

อาการที่แสดงให้รู้ว่าช่วงล่างรถยนต์กำลังมีปัญหา มีทั้งหมด 6 อาการด้วยกัน ดังนี้ 

  • อาการที่ 1 คือ การออกตัวรถและกำลังหยุดรถทั้งเดินหน้าและถอยหลัง จะมีเสียงดังกึกแบบเบาๆ แสดงว่าบูชปีกนกอาจจะมีปัญหา 
  • อาการที่ 2 คือ ขับขี่ไปบนถนนขรุขระมีเสียงดัง กุกกัก ลูกหมากปีกนกอาจจะมีปัญหา 
  • อาการที่ 3 คือ ขับขี่ไปบนถนนขรุขระ แล้วสะท้านขึ้นมาจนถึงพวงมาลัย ลูกหมากแร๊คอาจจะมีปัญหา หรือถ้าลูกหมากแร๊คแน่นอยู่แล้ว ยางรัดแร๊คก็อาจจะมีปัญหา 
  • อาการที่ 4 คือ ขับขี่ในทางตรงแล้วพวงมาลัยมีอาการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง แสดงว่าบูชปีกนกอาจจะมีปัญหา 
  • อาการที่ 5 คือ ขับขี่ในทางตรง แต่รู้สึกว่าล้อไม่ตรง ไม่สามารถควบคุมให้รถนิ่งได้ แสดงว่าลูกหมากแร๊คอาจจะมีปัญหา 
  • อาการที่ 6 คือ ขับขี่ไปบนถนนขรุขระแล้วพวงมาลัยดึงและหลวม มีเสียงดังกุกกัก แสดงว่าลูกหมากคันชักอาจจะมีปัญหา 

ทั้งนี้ หากคุณพบเจออาการใดอาการหนึ่งจากทั้งหมด 6 อาการนี้ ให้คุณรีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถเพื่อตรวจเช็คให้เร็วที่สุด 

http://www.jeksuspension.com/

ช่วงล่างกระด้าง แก้ได้ด้วยโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบ “สไลด์กระบอก” 

โช๊คอัพสตรัทปรับเกลียว ถูกพัฒนาขึ้นเป็นแบบสไลด์กระบอก คือ สามารถปรับความสูงได้ที่ตัวกระบอกโช๊คอัพเลยไม่ต้องไปปรับที่เบ้าสปริงอีกแล้ว เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหาเรื่องการบีบสปริงในกรณีปรับสูงขึ้น รวมถึงอาการยันของโช๊คอัพเวลาปรับเตี้ยอีกด้วย แน่นอนว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาช่วงล่างกระด้างได้เช่นกัน ซึ่งยี่ห้อที่นิยมของโช๊คอัพสตรัทปรับเกลียวแบบสไลด์กระบอกสำหรับอีโคคาร์ คือ  TEIN STREET ADVANCE นั่นเอง ซึ่ง TEIN STREET ADVANCE เป็นแบรนด์โช๊คอัพที่โด่งดังมากจากประเทศญี่ปุ่น คนไทยก็ฮิตมากเช่นกัน เพราะเป็นโช๊คแก๊สกึ่งน้ำมัน แถมสามารถปรับสูง – ต่ำได้ ปรับความหนืดได้ 16 ระดับ และเป็นโช๊คสเปคที่พัฒนาให้ถนนเมืองไทยโดยเฉพาะ ที่สำคัญราคากลางๆ พอจับต้องได้อีกด้วยล่ะ

สามารถหาซื้อหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากร้าน Jeksuspension ที่เว็บไซต์ http://www.jeksuspension.com/ เพราะทางร้านมีจำหน่ายช่วงล่างหลากหลายรูปแบบและมีการบริการที่ครบวงจร เหมาะสำหรับคนรักรถทุกคนที่ต้องการใช้บริการเกี่ยวกับช่วงล่าวง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับช่วงล่างของรถยนต์ 

ชี้ชัดความแตกต่างของหลอด นีออน led และหลอดนีออนธรรมดา

Author George WilliamsPosted on August 17, 2020August 17, 2020Categories BusinessTags

พูดถึงหลอดไฟที่นิยมใช้กันตามบ้านเรือนในชีวิตประจำวันนั้นคงหนีไม่พ้นหลอดนีออนหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ บางบ้านอาจยังใช้หลอดไส้กันอยู่บ้างแต่ก็ไม่มาก แต่ปัจจุบันนี้หลายคนคงเริ่มได้ยินชื่อหลอด นีออน led หรือหลอดไฟ led กันมาบ้างแล้ว

หลอดนีออน led

หลอดไฟ เป็นอีกหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีพัฒนาการมายาวนาน ปัจจุบันนี้มีหลอดไฟหลากชนิดหลายดีไซน์ให้เลือกใช้ แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป วันนี้จึงอยากจะพามารู้จักหลอด นีออน led หรือหลอด led กันว่ามันมีความแตกต่างจากหลอดนีออนธรรมดาอย่างไร มาดูกันค่ะ

โดยทั่วไปถ้าให้เลือกใช้ระหว่างหลอด 3 ชนิดนี้หลายคนคงเลือกจะใช้หลอดนีออนธรรมดา เพราะมันให้ความสว่างค่อนข้างมากรวมถึงราคาถูกอีกด้วย แต่รู้ไหมว่าหลอดนีออนนั้นอายุการใช้งานนั้นสั้นกว่าหลอด นีออน led มาก ยิ่งเปิดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อายุการใช้งานก็ยิ่งสั้นลงแถมกินไฟมากกว่าด้วย ถ้าใครสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันค่ะ

                หลอดนีออน (neon lamp) เป็นชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ยุคแรกๆสำหรับหลอดไฟ สาเหตุก็เพราะก๊าซนีออนที่ใช้ในหลอดไฟนั้นเมื่อเกิดการแตกตัวแล้วจะมีการนำไฟฟ้าจนเกิดการเรืองแสงออกมา ซึ่งในยุคหลังๆ มีการพัฒนาโดยนำก๊าซชนิดอื่นมาใช้ แสงจากหลอดไฟจึงแตกต่างกันออกไปตามชนิดของก๊าซ รูปทรงของหลอดในตอนแรกก็จะเป็นทรงกลมแบบที่เราคุ้นเคยกันอย่างหลอดไส้ที่มีไฟสีส้มๆนั่นเอง จนกระทั่งหลังๆมีหลายรูปทรงมากขึ้นอย่างทรงกระบอกตรง ทรงแบบโค้งงอเป็นขด เป็นต้น กระบวนผลิตหลอดนีออนเริ่มจากนำแก้วมาเป่าขึ้นรูปตามต้องการ จากนั้นจ่ายไฟฟ้าแรงดันสูงเข้าไฟเพื่อทำความสะอาดหลอด เมื่อหลอดเย็นตัวลงก็สูบอากาศออกแล้วบรรจุก๊าซชนิดที่ต้องการ ปิดหัวท้ายหลอดให้สนิท ช่วงหลังนี้มีการนำผงฟลูออเรสเซนต์ซึ่งเป็นสารเรืองสงมาเคลือบด้านในด้วย จึงเปลี่ยนมาเรียกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์แทน โดยหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอดไฟที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบันแทนหลอดนีออนแบบดั้งเดิม

                หลอด นีออน led เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งที่เข้าไฟกันทั่วไปว่าใช้เรียกหลอดไฟ led แต่จริงๆแล้ว led ไม่ใช่หลอดไฟด้วยซ้ำ แต่เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชิ้นหนึ่งที่ใช้สำหรับออกแบบและควบคุมทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้า แต่ด้วยโครงสร้างที่เอนกประสงค์ จึงสามารถนำมาใช้งานในวงการอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างหลากหลาย รวมถึงใช้เป็นแหล่งกำเนิดของแสงด้วย การกำเนิดแสงนี้จะอยู่ในรูปแบบกระแสไฟฟ้าไหลผ่านสารกึ่งตัวนำ ต่างจากกลไกการทำงานของหลอดไส้หรือหลอดตะเกียบ ที่จะใช้ความร้อนจนเกิดการเผาไหม้หรือใช้ความร้อนกระตุ้นให้ก๊าซภายในหลอดไฟเกิดการเรืองแสงแทน

ความแตกต่างระหว่างหลอดนีออน led กับหลอดนีออนธรรมดา

  1. ขนาด led เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กกว่าหลอดนีออนธรรมดามาก เพราะฉะนั้นหลอดไฟ led จึงมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กจิ๋วอย่างพวกไฟประดับจนไปถึงขนาดใหญ่อย่างพวกโคมไฟถนนเลย
  2. มีอายุการใช้งานนานกว่า เนื่องจากไม่ได้ใช้ความร้อนในการกระตุ้นให้เกิดแสงสว่าง เพราะฉะนั้นชิ้นส่วนจึงมีอัตราเสื่อมช้ากว่า หลอด นีออน led มักมีอายุการใช้งานอย่างต่ำ 50,000 ชั่วโมง ในขณะที่หลอดนีออนธรรมดาใช้งานได้ราว 10,000 ชั่วโมงเท่านั้น
  3. ประหยัดกว่าในระยะยาว เมื่อเทียบราคาต่อหน่วย หลอด นีออน led นั้นมีราคาสูงกว่าหลอดธรรมดาก็จริง แต่ถ้าคำนวณจากการระยะเวลาการใช้งาน รับรองว่าหลอด led คุ้มค่ามากกว่าในระยะยาวอย่างแน่นอน
  4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลอดธรรมดามักมีโลหะหนักอย่างพวกปรอทหรือทังสเตนเป็นส่วนประกอบ หากหลอดไฟแตกออกและสารเหล่านี้สัมผัสกับผิวหนัง สูดดมหรือแม้กระทั่งซึมลงไปในดิน ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบทั้งสิ้น ในขณะที่หลอดไฟ นีออน led ไม่มีส่วนประกอบอันตรายเหล่านี้เลย

นี่เป็นเพียงความแตกต่างเบื้องต้นระหว่าง หลอดนีออน led กับหลอดไฟธรรมดา ที่ทุกคนควรจะทราบกันค่ะเมื่อลองเปรียบเทียบดูแล้วมันมีข้อดีมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นหากใครจะซื้อหลอดไฟดีๆสักหลอดมาใช้ อย่าลืมพิจารณาหลอด นีออน led กันด้วยนะคะ ก็หวังว่าข้อมูลจากบทความนี้จะช่วยเป็นแนวทางที่ดีในการตัดสินใจเปลี่ยนหลอดไฟครั้งหน้านะคะ

ทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าราคาถูก

Author George WilliamsPosted on August 14, 2020June 27, 2022Categories TechnologyTags

หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่รู้จักกับรถไฟฟ้ามาก่อน หรืออาจเพียงแค่คุ้นหูคุ้นตาเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ได้มีเคสว่าหลายๆ คนเข้าใจผิดไปใหญ่โตว่า คำว่า รถไฟฟ้า นั้นคือ รถไฟฟ้า BTS ที่ผู้คนพากันใช้บริการทุกวี่ทุกวันแทน ฉะนั้น บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าราคาถูกกัน ว่ารถไฟฟ้าราคาถูกนั้น คืออะไร ? 

ทำความรู้จักกับรถไฟฟ้าราคาถูก 

รถไฟฟ้าราคาถูก หรือ รถยนต์ EV หรือ ELECTRIC VEHICLE คือ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนโดยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป โดยรถยนต์ EV จะใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้มันน้ำหรือพลังงานอื่นๆ โดยระบบรถไฟฟ้าจะเก็บพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้ และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนรถ  

ประเภทของรถไฟฟ้าราคาถูก 

รถไฟฟ้าราคาถูก สามารถแยกตามการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ ได้ดังนี้ 

  • ประเภทของรถไฟฟ้าราคาถูก ที่ 1 : รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้วิ่งในระยะสั้น หรือในละแวกใกล้เคียง มีช่วงการขับขี่ต่ำและทำงานที่ความเร็วต่ำ ตัวอย่างเช่น GEM ELECTRIC MOTORCAR 
  • ประเภทของรถไฟฟ้าราคาถูก ที่ 2 : รถยนต์ไฟฟ้าประเภท BATTERY ELECTRIC VEHICLE (BEV) รถยนต์ประเภทนี้ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงาน ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% จึงต้องมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลต่อการชาร์จต่อหนึ่งครั้ง ทั้งนี้รถยนต์(PLUG-IN ELECTRIC VEHICLES : PEVS) จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในจึงไม่ทำให้เกิดสารก่อมลพิษในขณะขับเคลื่อนหรือที่เรียกว่า ZERO EMISSION แต่มีข้อเสียอยู่ที่มีระยะทางการวิ่งจำกัด โดยระยะทางในการขับขี่จะขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ในการใช้งาน และเส้นทางวิ่ง 
  • ประเภทของรถไฟฟ้าราคาถูก ที่ 3 : รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FUEL CELL ELECTRIC VEHICLE – FCEV) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อน และใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากเซลล์เชื้อเพลิง (FUEL CELL) โดยเป็นเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากการเติมเชื้อเพลิงภายนอก โดยไม่มีการปล่อยมลพิษ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์โดยตรง จะมีเพียงการปลดปล่อยน้ำเท่านั้น ในปัจจุบันรถยนต์แบบ FCEV มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าจะมีการเติบโต รวมถึงเข้าสู่ตลาดได้กันในเร็ววัน 

และนี่คือ ความหมายของคำว่ารถไฟฟ้า รวมถึงประเภทของรถไฟฟ้าที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ โดยทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย 

รู้จักกับ ราง wireway หนึ่งอุปกรณ์ฌดินฟาที่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก

Author George WilliamsPosted on August 12, 2020August 13, 2020Categories TechnologyTags

                หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย ๆ ในการเดินไฟ หรือ เราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้จะเรียกอะไรก็มีนะครับนั้นคือ ราง wirewayหนึ่งในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เราอาจจะเคยเห็นกัน แต่ไม่รู้จัก หรือ ไม่รู้จะเรียกอะไรก็ได้ และวันนี้เรามาลองรู้จักกับ ราง wireway กันให้มากขึ้นดีกว่านะครับ

ราง wireway คืออะไร

                ราง wireway  หรือ รางเดินสายไฟ ทั่วไปแล้ว จะมีหลากหลายขนาด โดยส่วนมากจะทำจากแผ่นเหล็ก นำมาพับขึ้นรูปให้เป็นรางหน้าตัดตัว U และ มีฝาครอบ ความยาว 4 ฟุต (1.2เมตร) หรือ 8 ฟุต (2.4เมตร) แล้วนำมาเคลือบสีฝุ่น แบบอีพ๊อกซี่ (ซึ่งสวนมากจะเป็นสีเทา) เหมาะกับการใช้งานในอาคารที่ไม่โดดแดดและฝน

ราง wireway การใช้งาน

                การใช้งานหลัก ๆ ของ ราง wireway นั้นจะนิยมใช้เพื่อปกปิดสายไฟภายในอาคาร ในกรณีที่มีการเดินสายไฟเป็นจำนวนมากเนื่องจากสายไฟอาจจะมีหลายเส้น หรือ จะใช้เดินสายบนฝ้าก็มีการพบว่าใช้เยอะอยู่เหมือนกัน  และในอาคารใหญ่ที่เปิดโล่งเองสามารถเดินเป็นโครงได้แต่ต้องใช้รางที่เหมาะสม ซึ่งเหตุผลที่มีการใช้ราง wireway ในการเดินสายไฟนั้นก็เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ราง wireway

ข้อดีของ ราง wireway

            ข้อดีของ ราง wireway นั้นมีมากมาย โดยเฉพารการทำให้สายไฟเป็นระเบียบทั้งในและนอกอาคาร เพราะการใช้ราง wireway จะทำให้สายไฟนั้นดูไม่รก เกะกะ โดนเก็บอยู่เป็นที่อย่างเป็นระเบียบ และ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อการเดินผ่านไปมาด้วย และนอกจากนั้นในราง wireway นั้นสามารถเลือกเพิ่ม หรือ ลด สายไฟด้วยก็ได้ ซึ่งต่างการใช้ท่อร้อยสายไฟที่จะออกแบบให้มีขนาดพอดีกับสายไฟจึงไม่สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนของสายไฟได้

                เป็นไงครับ รู้จักกับ ราง wireway มากขึ้นปกติแล้วเรามีแต่ะเดินเตะกันโดยไม่รู้ชื่อ แต่วันนี้เราได้รู้ทั้งชื่อและข้อดีไปแล้วเรียกว่ามั่นใจได้เลยว่าเดินเตะครั้งต่อไปเรียกชื่อถูกแน่นอน

เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor VS เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐาน

Author George WilliamsPosted on August 9, 2020August 10, 2020Categories TechnologyTags

บทความนี้ เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor และเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐาน ว่าทั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor และเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐานนั้นมีความเหมือน หรือแตกต่างกันอย่างไร เอาเป็นว่าอย่ามัวเสียเวลา เราไปเรียนรู้ถึงความเหมือนและความต่างของทั้งเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor และเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐานกันเลย 

เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor VS เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบมาตรฐาน 

มาเริ่มกันที่เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor ขนาดเล็กกันเลย ซึ่งเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor มีราคาและคุณภาพที่หลากหลาย หลักการของการตรวจวัดความเข้มข้นของสารอนุภาคของเซนเซอร์ เป็นการวัดทางอ้อมโดยอาศัยคุณสมบัติการกระเจิงของแสงที่ส่อง ผ่านสารอนุภาคขนาดต่าง ๆ (Light Scattering) และประมวลผล ออกมาเป็นความเข้มข้นของสารอนุภาคขนาดต่าง ๆ ข้อดีของเครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor ขนาดเล็ก คือ หาง่าย ราคาถูกกว่าเครื่องวัดมาตรฐาน อย่างไรก็ดี เครื่องวัดคุณภาพอากาศแบบ sensor ฃจะถูกออกแบบและสอบเทียบให้ใช้งานภายในอาคาร ดังนั้น ในการนำมาประกอบเป็นเครื่องวัดคุณภาพอากาศเพื่อนำไปใช้งานนอกอาคาร ซึ่งจะมีปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกรบกวน ค่าที่ได้จากการวัดเป็นอย่างมาก เช่น อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์แรงและทิศทางลม เป็นต้น 

จัดจำหน่ายเครื่องวัดคุณภาพอากาศ

เครื่องวัดคุณภาพอากาศ มีอะไรบ้าง ? 

  • เครื่องวัดฝุ่น PM2.5 เพราะฝุ่น PM2.5 ถือเป็นฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กมาก การมีเครื่องวัดฝุ่น PM2.5 อาจจะช่วยให้คุณได้รู้จักเตรียมตัวดูแลตัวเอง เมื่อค่าแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ที่คุณอยู่มีปริมาณฝุ่น PM2.5 เกินกว่ากำหนด 
  • เครื่องวัดฝุ่น PM10 อีกหนึ่งฝุ่นพิษที่มีปัญหาไม่แพ้ฝุ่น PM2.5 กับ ฝุ่น PM10 ที่มักจะมีค่าเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนดอยู่เสมอๆ  
  • เครื่องวัดฝุ่นพกพา การมีเครื่องวัดฝุ่น จะเป็นหนึ่งตัวช่วยแรก ที่สามารถทำให้คุณดูแลตัวเองได้ใน เบื้องต้น รวมถึง สามารถนำเอาไปใช้ในงานของคุณได้อีกด้วย  
  • เครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศ เพราะปัญหาฝุ่นละอองในทุกวันนี้มีมากขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่ ฝุ่น PM2.5 หรือ ฝุ่น PM10 เท่านั้น ดังนั้นหากคุณมีเครื่องวัดฝุ่นละอองในอากาศ เอาไว้วัดค่าฝุ่น ก็จะเป็นแนวทางที่ดี ที่จะช่วยดูแลสุขภาพของตัวคุณเอง 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้คุณตระหนักถึงภัยอันใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นในระดับต่างๆ ซึ่งนั่นจะทำให้คุณรู้จักหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพของตนเองมากขึ้น 

และถ้าหากว่าคุณสนใจ อยากจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องวัดคุณภาพอากาศ ก็สามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของร้านที่จัดจำหน่ายเครื่องวัดคุณภาพอากาศต่างๆ หรือจะไปดูเองที่ร้านขายโดยตรงก็ย่อมได้

หลักการ เลือกส่งของ อย่างไรมั่นใจ ถูกใจเรา

Author George WilliamsPosted on August 4, 2020August 4, 2020Categories BusinessTags

                “การส่งของ” เป็นหนึ่งในการบริการที่เริ่มมีการใช้มาอย่างยาวนาน และในปัจจุบันการเลือกส่งของนั้นมีหลากหลายมากขึ้น จึงอาจจะเกิดเรื่องคำถาม “ส่งของบริษัทไหนดี” กันมากขึ้นเพราะปัจจุบันมีบริษัทมากมายให้เราได้เลือกใช้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าเราควรเลือกใช้ธุรกิจขนส่ง การเลือกขนส่ง อย่างไร และส่งของบริษัทไหนดี ให้เหมาะกับเรา

เลือกจาก “ความสะดวก”

            อย่างแรกเริ่มต้นด้วยความสะดวกง่าย ๆ อย่างการเลือกจากความสะดวกในการเดินทาง เราสะดวกเดินทางไปส่งของทางไหน สังพัสดุทางใด  เราก็สามารถเลือกใช้บริการที่ใกล้ที่สุดก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องไปส่งให้เยอะ วุ่นวาย เลือกเอาใกล้ตัวก็ได้

เปรียบเทียบราคา

            หากว่าของที่เราจะส่งนั้นมีน้ำหนักที่มาก เราควรเลือก และ เริ่มเปรียบเทียบราคาในแต่ละเจ้าของในเรื่องการขนส่งดีกว่านะครับ เพราะจะได้ช่วยเราประหยัดมากขึ้น โดยความต่างของราคานั้นอาจจะไม่มากก็ได้ แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่านะครับ

เลือกจากชื่อเสีย(ง)

            ชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาซื้อได้ โดยการซื้อนะครับ ธุรกิจเองก็เช่นกัน เป็นของที่ต้องสร้างชื่อเสียง จากความน่าเชื่อถือ จากการใช้บริการของผู้โภคเอง ดังนั้นในส่วนของชื่อเสียง และ ความน่าเชื่อถือ เราสามารถหาดูก็ได้นะครับว่าที่ผ่านมา บริษัทขนส่งที่เรากำลังจะเลือกนั้นมีชื่อเสียง หรือ ชื่อเสีย มากกว่ากัน

ส่งของบริษัทไหนดี

เปิดใจรับบริการใหม่ ๆ

            บริการใหม่ ๆ นั้นเกิดขึ้นมาก มีบริการการรับส่งที่เกิดขึ้นมากมาย บางทีเราอาจจะยังไม่กล้าเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ แต่บางทีหากเรายอมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ เองบริการการขนส่งของบริการใหม่ ๆ อาจจะดีก็ได้นะครับ และบริการใหม่ ๆ นั้นส่วนมากจะมีราคาที่ถูกกว่าด้วย

                และนี้เป็นหลักการเลือกบริการขนส่งนะครับ จะได้หมดปัญหากับคำถาม “ส่งของบริษัทไหนดี” แต่สุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพอใจนะครับ ว่าท่านจะเลือกบริการขนส่งแบบไหนก็แล้วแต่ผู้บริโภคนะครับ

คาใจมานาน! เทรดกับ Forex ถูกหรือผิด จับติดคุกหรือไม่ ?

Author George WilliamsPosted on August 3, 2020June 27, 2022Categories BusinessTags

เทรดเดอร์หลาย ๆ คนนั้นอาจจะสงสัยในเรื่องของ forex โบรกเกอร์ หรือ การเทรดกับ Forex กันใช่ไหมครับ ? ว่าถูกกฎหมาย หรือ ไม่ ? และ ในปัจจุบันการเทรด forex โบรกเกอร์ นั้นยังถูกต้องหรือไม่ ? ในบทความนี้เราได้รวบรวมคำถามคาใจทุก ๆ คำถามเกี่ยว forex โบรกเกอร์ ในเรื่องของกฎหมาย และ การเทรดไว้ให้แล้วมาลองดูกันเลยดีกว่าว่า สรุปแล้ว forex โบรกเกอร์ ถูก หรือ ผิด กันแน่ ? 

Forex ถูกฎหมายหรือไม่ 

ก่อนอื่นเริ่มกันด้วยคำถามที่ว่า forex โบรกเกอร์ นั้นถูกต้องตามกฎหมาย หรือ ไม่ และ โบรกเกอร์สามารถเทรดได้ปกติหรือไม่ ? คำตอบของคำถามนี้ โบรกเกอร์นั้นสามารถ เทรดได้อย่างปกติ โดยไม่ผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเมื่อพิจารณาจากข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องของ พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นั้นไม่มีข้อห้ามข้อไหนนั้น ให้บุคลทั่วไป เข้ายุ่ง หรือ ทำธุรกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด 

แต่ถ้าอยู่นอกเหนือจากประเทศไทย : ถ้าเทรดเดอร์บางคนนั้นเลือกใช้บริการกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ นั้นจะไม่สามารถเรียกร้อง ในส่วนของการฉ้อโกง ในทุก ๆ ความเสียหายที่เกิดขึ้น 

และเทรดเดอร์นั้นจะต้องยอมรับ : ในทุก ๆ ความเสี่ยงของการลงทุนเอง โดยหากมีการลงทุนแล้ว เกิดความเสียหายจนขาดทุน จะไม่สามารถฟ้องร้อง หรือ เอาค่าเสียหายคืนได้ 

forex โบรกเกอร์

ระดมทุนในตลาด Forex 

หากมีใครก็ตามที่ชักชวนให้คุณมาระดมทุนในการเล่น forex โบรกเกอร์ นั้นขอให้ปฏิเสธไปก่อนเลยนะครับ เพราะตลาดของ Forex นั้นมีความผันผวนสูง การระดมทุนจึงเป็นเรื่องยากที่จะลงทุน และ อีกในกรณีนั้นคือ การโดนโกงจากพวกมิจฉาชีพ ซึ่งการเล่น forex โบรกเกอร์ นั้นควรเริ่มต้นเล่นด้วยตัวเอง และ ทำทุกอย่างด้วยตัวเองจะดีกว่านะครับ 

สรุป 

forex โบรกเกอร์ นั้นไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย 

แต่ว่าเทรดเดอร์ ทุกคนจะต้องสามารถเข้าไปทำธุรกรรม และ เทรดได้ตามปกติ หากอ้างอิงตามกฎหมาย 

ไม่ควรเลือกใช้การระดมทุน เพราะมีโอกาสที่จะถูกหลอกสูง 

เลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ และ ควรเป็นภาษาไทย เพื่อง่ายต่อการติดต่อ 

ดังนั้นหากว่าท่านคิดจะเป็นเทรดเดอร์ในตลาดของ forex โบรกเกอร์ ต้องทำการบ้านในหลาย ๆ เรื่องเลยนะครับ ทั้งปกป้องตัวเองจากมิจฉาชีพ และ การทำกำไรอีก ยังไงก็หาโบรกเกอร์ดี ๆ ไว้คอยช่วยเหลือจะดีกว่านะครับ 

หลักการเลือกซื้อสินค้าอุตสาหกรรมอย่างไร ให้โดนใจเรา

Author George WilliamsPosted on July 30, 2020August 14, 2020Categories TechnologyTags

                ปกติแล้วเวลาเราเลือกซื้อของอะไรสักอย่าง เราจะต้องไปเลือกสินค้าเพื่อให้ได้ความมั่นใจว่าเราจะได้ของที่ต้องการ สินค้าที่เราอยากได้ และ ตรวจสอบคุณภาพได้ด้วย แต่ในปัจจุบันการซื้อขายสามารถเกิดขึ้นผ่านโลกออนไลน์ได้เช่นกัน แต่การซื้อออนไลน์เองก็มีข้อเสียอยู่ด้วยเช่นกันนั้นคือเราไม่ได้รู้คุณภาพสินค้า และเรายังไม่เห็นสินค้าจริง ๆ โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่ต้องการความละเอียดอ่อนในการซื้อดังนั้น วันนี้เราจะมาดูวิธีเลือกร้านสินค้าออนไลน์ในการซื้อสินค้าอุตสาหกรรมกันว่าเราควรจะเลือกร้านแบบไหน

ร้านที่สามารถให้คำปรึกษาเราได้

            บางครั้งการเลือกซื้อสินค้า เราก็ไม่สามารถรู้สเปคสินค้าได้หมด การที่มีร้านค้าออนไลน์ หรือ ร้านขายอุปกรณ์ หรือ สินค้าอุตสาหกรรมที่สามารถปรึกษา ทั้งรับฟังปัญหา หรือ สินค้าที่เราต้องการได้ ก็จะช่วยให้เราตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นนะครับ

สินค้ามีคุณภาพ

            แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าสินค้าจากการสั่งออนไลน์นั้นมีคุณภาพหรือไม่ ? เราสามารถหาอ่าน รีวิว ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ได้เลยนะครับว่าร้านที่เราจะเลือกนั้นมีชื่อเสียง หรือ ชื่อเสียมากกว่ากัน ซึ่งเดี๋ยวนี้การอยากรู้อะไรในโลกนั้นง่ายมากเลยนะครับ

น่าเชื่อถือ

            ความน่าเชื่อนั้นจะคล้าย ๆ กับสินค้ามีคุณภาพนั้นละครับ นั้นคือมั่นใจได้เลยว่าเราสั่งสินค้ากับร้านออนไลน์เจ้านี้แล้ว เราจะได้รับสินค้าอย่างแน่นอน ดังนั้นให้เราดูความน่าเชื่อถือจากประวัติ หรือ การจดทะเบียนการค้าก็ได้ครับว่าเป็นร้านที่ดูแล้วน่าไว้ใจหรือไม่

ราคาที่ไม่แพง

                สุดท้ายเรื่องของราคานั้นค่อนข้างสำคัญนั้นคือ  ราคาต้องไม่แพงเกินไป เหมาะกับผู้ซื้อทุกแบบ ซึ่งถ้าหากว่าราคาสูงเกินไปไม่มาก แต่ได้สินค้าที่มีคุณภาพก็นับว่าไม่น่าจะแปลกเท่าไหร่นะครับ

                ซึ่งถ้าหากในที่กล่าวมาข้างบนทั้งหมดนั้น FMS บริษัทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทอุตสาหกรรม ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น เกียร์ทดรอบ หรือ สินค้าอื่น ๆ แล้ว FMS มีสินค้าครับแน่นอน และมั่นใจได้เลยครับว่าได้สินค้าที่ดี และ มีคุณภาพแน่นอน

ธุรกิจที่เกี่ยวกับ IT ที่เติบโตมากขึ้นในทุกวันนี้

Author George WilliamsPosted on June 14, 2020July 15, 2020Categories Technology

                ในปัจจุบันนี้เรื่องของไอทีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่สุดที่เราเองจะมองข้ามไปไม่ได้เลยเพราะว่าในเรื่องของไอทีหรือธุรกิจไอทีนั้นเป็นเรื่องที่เราเองจะต้องให้ความสนใจกันอย่างมากเพราะทุกวันนี้ทุกคนนั้นก็ใช้เทคโนโลยีอยู่แล้วและเทคโนโลยีนี่แหละที่จะช่วยให้เรานั้นประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเลย

                เรื่องของไอทีนั้นเราสามารถที่จะทำให้เป็นธุรกิจได้ เพราะการที่เรารู้ในเรื่องของไอทีก็จะทำให้เราเป็นคนที่เก่งและมีความรู้ความสามารถมากขึ้น ยิ่งถ้าหากเรามีความรู้และความเข้าใจมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เรานั้นมีความรู้ติดตัวมากขึ้นไปกว่าเดิมได้ด้วย ทุกๆอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เราเองจะมองข้ามผ่านไปไม่ได้เลย

                ธุรกิจไอทีในปัจจุบันนี้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากที่สุดเพราะในตอนนี้เรื่องของไอทีเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนนั้นสนใจอย่างมากเพราะว่าทุกบ้านก็ใช้ไอทีกันหมดและไอทีนี่แหละที่จะช่วยทำให้เรานั้นเติบโตมาเป็นธุรกิจได้ไม่ยากหากเรารู้จักที่จะสนใจและเรียนรู้ การที่เราทำธุรกิจในด้านต่างๆนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่สุดเพราะถ้าหากเรามีความรู้ที่มากพอนั้นก็จะยิ่งช่วยทำให้เราเป็นคนที่นำความรู้ที่มีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมากที่สุดด้วย

                เรื่องของธุรกิจไอทีเป็นสิ่งที่น่าลงทุนอย่างมากในตอนนี้เพราะถ้าหากเราไม่ลงทุนในตอนนี้เราก็อาจจะเสียลูกค้าได้หรือไม่ได้นำเอาความรู้ที่มีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย ทุกๆเรื่องราวนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่สุดที่เราเองจะต้องอย่ามองข้ามเลย อะไรที่ทำให้เรามีความสุขหรือเรารักที่จะทำในอันนี้ก็จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นเติบโตได้ไม่ยากเลย

                ทุกๆเรื่องราวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่สุดที่เราเองไม่ควรที่จะมองข้ามเลย ยิ่งเรามองข้ามไปก็จะทำให้การลงทุนของเราลงทุนในภายหลังนั้นก็อาจจะมีผลกระทบได้ หากเราอยากให้ธุรกิจเติบโตไวเราก็ต้องเสี่ยงที่จะลงทุนเพราะเชื่อเลยว่าการลงทุนธุรกิจไอทีนั้นไม่ทำให้เราเสียหายอย่างแน่นอนแล้วเราก็จะได้กำไรที่ดีขึ้นเรื่อยๆจากการที่เราเปิดธุรกิจไอทีอีกด้วย หลายๆอย่างนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราเองก็จะมองข้ามไปไม่ได้เลย เรื่องของธุรกิจไอทีนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเราอย่างมากที่สุดเลยในตอนนี้ หากลงทุนเปิดได้เปิดเลยจะดียิ่งกว่า

ธุรกิจด้านไอทีกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก

Author George WilliamsPosted on May 27, 2020July 15, 2020Categories TechnologyTags

                ในปัจจุบันนี้ไอทีเป็นเรื่องที่ยอดฮิตมากๆเพราะเรื่องของไอทีเป็นเรื่องที่กำลังมีคนให้ความสนใจและมาแรงอย่างมากที่สุดเลย การที่เราเก่งทางด้านไอทีนั้นก็จะทำให้เรานั้นได้เปรียบอย่างมากที่สุดด้วยเพราะว่าการที่เรารู้จักที่จะเรียนรู้นั้นก็จะทำให้เราได้นำความรู้ที่มีนั้นมาถ่ายทอดและใช้ประโยชน์ให้เกิดผลลัพธ์อย่างมากที่สุดอีกด้วย

                เรื่องของไอทีเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เราเองจึงต้องเป็นคนที่รู้จักที่จะสนใจและใส่ใจในเรื่องของไอทีให้มากๆเพราะว่าเรื่องของธุรกิจไอทีหากเราทำได้นั้นก็จะช่วยให้เรานั้นเป็นคนที่เก่งและเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วยเช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่สุดที่เราจะต้องอย่ามองข้ามเลย เรื่องของเทคโนโลยีในสมัยนี้เป็นที่นิยมและมาแรงอย่างมากอีกด้วย

                ในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องของธุรกิจไอทีเป็นเรื่องที่เราไม่ควรที่จะมองข้าม สิ่งที่สำคัญอย่างมากที่สุดคือเรื่องในการที่เราเองควรที่จะต้องสร้างให้ธุรกิจของเรานั้นแข็งแรงและเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆเราเองควรที่จะต้องใส่ใจให้มากๆเพื่อที่จะทำให้เรานั้นได้มีกำไรมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ในเรื่องของเทคโนโลยีนั้นในตอนนี้ไม่ว่าใครๆก็อยากที่จะให้ธุรกิจด้านเทคโนโลยีของเรานั้นประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเลย

                ทุกๆอย่างไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆหากเราอยากที่จะเก่งเรื่องไอทีก็อาจจะต้องหาข้อมูลหรือรู้จักที่จะหาอ่านให้มากๆเพราะว่าเราจะได้เป็นคนที่นำความรู้ที่มีนั้นมาทำประโยชน์ให้กับเราอย่างมากที่สุดเลยด้วย ในตอนนี้การที่เรามีความรู้ทางด้านไอทีนั้นก็จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจไอทีของเรานั้นออกมาดีและออกมาสวยงามอย่างมากที่สุดอีกด้วยโดยที่เราเองไม่ต้องมานั่งกังวลใจเลยว่าจะทำธุรกิจแล้วขาดทุน หากเรามีความรู้มากพอแน่นอนว่าเราก็สามารถที่จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นออกมาดีและประสบความสำเร็จอย่างมากที่สุดอีกด้วย

                ในเรื่องของการทำธุรกิจไอทีนั้นเราสามารถที่จะลงทุนครั้งหนึ่งแล้วก็รอผลกำไรได้ไม่ยากเลย เพียงแต่ว่าเราเองจะต้องทุ่มเทเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเราอย่างมากที่สุดด้วย แล้วธุรกิจไอทีของเรานั้นก็จะออกมาประสบความสำเร็จอย่างที่เราเองก็มองข้ามไปไม่ได้เลยด้วย เรื่องของธุรกิจไอทีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเราอย่างมากที่สุดเลยด้วยในตอนนี้